สาธารณสุขยันเตรียมตรวจซ้ำคนไทยกลับบ้าน ก่อนส่งตัวกลับหลังครบ 14 วัน

สาธารณสุขยันเตรียมตรวจซ้ำคนไทยกลับบ้าน ก่อนส่งตัวกลับหลังครบ 14 วัน

       สาธารณสุขยันมาตรการเข้มดูแลบุคลากรทางการแพทย์ – ผู้พักฟื้น 138 ชีวิตจากอู่ฮั่น ทั้งสุขภาพ การป้อง กัน และสุขภาพจิต ตามมาตรฐานป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดกรณีไวรัส โควิด-19 เผยมั่นใจปลอดภัยไร้โรค พร้อมเตรียมตรวจซ้ำก่อนส่งตัวกลับหลังครบ 14 วัน

        ที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ การนำคนไทยกลับบ้าน กรณีไวรัสโควิด-19 อาคารับรอง โรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ ฐานทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี นายแพทย์สวรรค์ ขวัญใจพานิชย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชลบุรี นำทีมบุคลากรทางการแพทย์ ประกอบด้วย นายแพทย์องอาจ ดีศิริ รอง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชลบุรี นางสมศรี ซื่อต่อวงศ์ หัวหน้าพยาบาลป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อ โรงพยาบาลชลบุรี และ นางสุปราณี ศรีพลาวงษ์ หัวหน้ากลุ่มการพยาบาลโรงพยาบาลชลบุรี เข้าร่วมการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเพื่อชี้แจงถึงแนวทางการปฏิบัติงานในการดูแลคนไทยกลับบ้านจำนวน 138 คน และบุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติหน้าที่ ณ อาคารรับรองกองเรือยุทธการ อ่าวดงตาล อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี

        นายแพทย์ สวรรค์ เปิดเผยว่า ตนได้รับมอบหมายจากนายแพทย์ สุเทพ เพชรมาก ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขต6 ซึ่งเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์การนำคนไทยกลับบ้าน ให้มีการจัดเตรียมบุคลากรทางการแพทย์เข้ามาร่วมดูแลคนไทยที่กลับจากเมืองอู่ฮั่นจำนวน 138 คน ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันส่งตัวกลับ จึงได้ประสานงานทีมบุคลาการทางการแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ พยาบาลเชี่ยวชาญการควบคุมป้องกันโรคติดเชื้อหรือ ICN กรมควบคุมโรค รวมถึงโรงพยาบาลบำราศนราดูร และโรงพยาบาลในพื้นที่จังหวัดชล บุรีและระยอง เพื่อจัดทีมดูแลทั้งแพทย์และพยาบาลจำนวน 6 คนต่อวันอย่างใกล้ชิด รวมถึงรถฉุกเฉินกรณีเกิดเหตุการณ์ที่มีผู้ป่วยตลอดระยะเวลา 14 วันของการเฝ้าระวัง ซึ่งทุกอย่างมีการเตรียมความพร้อมด้วยการอบรมเจ้าหน้าที่และบุคลากรในวิธีการปฏิบัติตัว การป้องกัน การเตรียมอุปกรณ์ และการดูแลคนไทยที่พักฟื้นที่เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดอย่างเคร่งครัด

         ทางด้านนางสมศรี กล่าวว่า คณะแพทย์และพยาบาล ได้เตรียมความพร้อมไว้ล่วงหน้าก่อนที่จะมีการนำคนไทยกลับ มาจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีนแล้ว ทั้งการอบรม การกำหนดตารางการทำงาน การปฏิบัติตัวต่อผู้พักฟื้นและบุคลากรที่ปฏิบัติงาน รวมทั้งแผนการดูแลด้านสุขภาพจิต ร่างกาย การตรวจวัด และกิจกรรมสันทนาการ ทั้ง นี้ในส่วนของการปฏิบัติในพื้นที่อาคารรับรองหรือที่เรียกว่าโซนสีแดงนั้น จะมีการดูแลคนไทยเป็นอย่างดี ทั้งการตรวจวัดไข้เพื่อดูอาการทุกวัน โดยเน้นเรื่องของความสะอาดเช่นการฆ่าเชื้อด้วยการล้างมือการใส่แมส เพื่อป้องกันการติดเชื้อ มีการจัดเตรียมอาหารให้วันละ 4 มื้อ ซึ่งอุปกรณ์ทั้งหมดจะไม่มีการใช้ซ้ำโดยจะถือว่าเป็นขยะติดเชื้อที่จะมีการซีนแพ็คเพื่อนำไปเผาทำลายตามขั้นตอนเป็นประจำทุกวัน การจัดเตรียมเสื้อผ้า อุปกรณ์เครื่องนอน และเครื่องใช้ที่จำเป็นที่มีการร้องขอ ซึ่งสามารถประสานงานกับพยาบาลผู้ดูแลได้ตลอด 24 ชม. ขณะที่ในช่วงเย็นจะมีการจัดกิจกรรมสันทนาการเพื่อให้เกิดความผ่อนคลาย ทั้ง การเล่นแบดมินตัน การเต้นแอโรบิก และกิจกรรมวิ่ง ซึ่งอุปกรณ์ที่ใช้เหล่านี้จะมีการทำความสะอาด สเปรย์ด้วยยาฆ่าเชื้ออย่างสม่ำเสมอ โดยจนถึงปัจจุบันผ่านระยะเวลามาหลายวันแล้วพบว่าทุกคนมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง มีสุขภาพจิตที่ดี พร้อมที่จะเดินทางกลับบ้านหลังครบกำหนด 14 วันในวันที่ 19 กุมภาพันธ์นี้ แต่ก็คงจะมีการตรวจเชื้อทางโพรงจมูกจากคนไทยทั้งหมดอีกครั้ง เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าปลอดจากโรคแน่ นอน 100 %

            ด้านนาวาเอกหญิง อัจฉรี สิกขมาน รองผู้อำนวยการกองสุขภาพจิต โรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ ฐานทัพเรือสัตหีบ หัวหน้าชุดทีมช่วยเหลือเยียวยาจิตใจคนไทยกลับบ้าน เปิดเผยว่า คนไทยเหล่านี้ต้องเผชิญกับภาวะความเครียดในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงต้องมีการดูแลด้านสุขภาพจิตอย่างใกล้ชิดเพื่อลดภาวะที่เกิดขึ้น โดยมีการเข้าพบปะพูดคุย และประเมินแบบทดสอบทางจิตวิทยาเพื่อหาความเจ็บป่วยอย่างอื่น ไม่ว่าจะเป็นโรคเครียด โรค PTSD โรคดีเพรสชั่น ซึ่งเท่าที่ผ่านมายังไม่พบความผิดปกติและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แม้หลายคนอาจมีภารกิจเรื่องหน้าที่การงาน และการเรียนก็ตาม ส่วนกรณีที่หลายคนกังวลว่าอาจได้รับผล กระทบจากสังคมกรณีที่กลับมาเมืองอู่ฮั่นนั้น กรณีนี้ทางศูนย์ฯยืนยันได้ว่าทุกคนมีการตรวจและเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิดและตรวจหาเชื้อถึงคนละ 2 ครั้งจึงมั่นใจได้ว่าอยู่ภาวะปลอดโรคแน่นอน แต่หากกลับ ไปและยังมีภาวะของความเครียดหรือวิตกกังวลอยู่ก็ยังจะมีทีมที่คอยไปดูแลเยียวยาและฟื้นฟูจิตใจอยู่

ปริญญา/ข่าว/ภาพ

Visitors: 168,319