นอภ แจ้งพื้นที่ห้วยใหญ่ติดโควิด19 จริง เผยอำเภอบางละมุง 20 ราย

นอภ แจ้งพื้นที่ห้วยใหญ่ติดโควิด19 จริง เผยอำเภอบางละมุง 20 ราย

      นายอำเภอบางละมุงชี้แจงแล้ว จากภาพที่มีคนโพสต์ว่ามีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในเขตห้วยใหญ่พบว่าเป็นเรื่องจริงและกำลังส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบสมาชิกภายในบ้านพร้อมสั่งการให้กักตัวแล้ว ยืนยันในอำเภอบางละมุงพบผู้ป่วยทั้งหมด 20 คน

        จากกรณีที่มีชาวบ้านโพสต์ภาพในโซเชียลมีเดียเฟสบุ๊ค ว่าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้าตรวจสอบผู้ป่วยภายในบ้านเรือนประชาชนในเขตอำเภอห้วยใหญ่และมีข้อความว่า ป้าบ้านตรงข้ามแกป่วยหนัก นอนอยู่ รพ.อาการใกล้เคียงโควิด19 เพราะแกไปขายของที่พัทยาทุกวัน เจ้าหน้าที่ลงเก็บข้อมูลบ้านข้างๆ ก็ระแวง เลิ่กลั่กไปหมด และมีการแชร์ภาพกันเป็นจำนวนมาก

       ล่าสุดเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 1 เมษายน 2563 นายอำนาจ เจริญศรี นายอำเภอบางละมุง พร้อมด้วยนายสมพล จิตติเรืองเกียรติ สาธารณสุขอำเภอบางละมุง ได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ว่า เบื้องต้นผู้ป่วยรายนี้ได้เข้ามารักษาจริงที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งและป่วยเป็นโรคโควิด-19 จริง และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอบางละมุงเข้าตรวจสอบสมาชิกภายในบ้านว่ามีจำนวนกี่คน และให้ทำการกักตัวเองภายในบ้านเพื่อเฝ้าระวังจำนวน 14 วันเพื่อดูอาการ ไม่ให้ไปไหน พร้อมทั้งให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือในเบื้องต้นในด้านอาหารการกิน และสิ่งของจำเป็นแล้ว

        ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเขตอำเภอบางละมุงและเมืองพัทยานั้น ณ วันนี้ (1 เม.ย.63) พบผู้ป่วยแล้ว 20 คน ในเขตเมืองพัทยา 16 คน, ตำบลห้วยใหญ่ 1 คน, ตำบลตะเคียนเตี้ย 1 คน และตำบลหนองปรือ 2 คน โดยผู้ป่วยทั้งหมดเป็นชาวไทย 8 คน เป็นชาวต่างชาติ 12 คน เป็นผู้หญิง 10 คน ผู้ชาย 10 คน รวมทั้งหมด 20 คน

        อย่างไรก็ตามในกลุ่มผู้สัมผัสที่มีความเสี่ยงสูง ที่ต้องเฝ้าระวังในพื้นที่นั้น นายอำนาจ เจริญศรี นายอำเภอบางละมุง ได้สั่งการตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ต้องเฝ้าระวังและสังเกตุอาการตัวเองที่บ้านอีก 14 วัน โดยมอบหมายให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สาธารณสุขอำเภอบางละมุง และปลัดอำเภอบางละมุง ติดตามดูแลสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ หากผู้ใดฝ่าฝืน จะถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ พ.ศ.2558 มาตรา 52 ที่ระบุว่า ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อหรือผู้ว่าราชการจังหวัดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ปริญญา/ข่าว/ภาพ

Visitors: 172,846