ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีลงพื้นที่รับฟ้งปัญหากลุ่มชาวประมงแสมสาร

 

  

พีระพันธุ์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่สัตหีบ รับฟ้งปัญหากลุ่มชาวประมงแสมสาร

           วันพุธที่ 27 กรกฎาคม 2565 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานอำนวยการความเป็นธรรมและเร่งรัดการปฎิบัติราชการ พร้อมด้วย นายณัฐพงศ์ วรรณพัฒน์ ประมงจังหวัดชลบุรี และผู้แทนจาก ด่านตรวจประมงจังหวัดชลบุรี หน่วยป้องกันและปราบปราม ประมงทะเล อ่างศิลา สำนักงานจัดหางานจังหวัดชลบุรี ตำรวจน้ำสัตหีบ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมรับฟังปัญหากลุ่มประมงแสมสาร ณ สะพานปลาประมง วราสินธ์ ตำบลแสมสาร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมีนายธนกร ถาวรชินโชติ นายกสมาคมประมงแสมสาร กล่าวต้อนรับและนำเสนอปัญหาของชาวประมง โดยมีพี่น้องประชาชน กลุ่มเรือประมง กว่า 50 คน เข้าเสนอปัญหาและรับฟังการการแก้ไขปัญหา

           นายธนกร ถาวรชินโชติ นายกสมาคมประมงแสมสาร ได้นำเสนอปัญหา ประเด็นคำสั่งกักเรือประมงที่ได้ร้องทุกข์ กล่าวโทษ ตามมาตรา 83 แห่ง พรก.การประมงฯ และไม่สามารถทำการประมงได้  ,ปัญหาด้านแรงงานประมงที่รอขออนุญาตทำหนังสือคนประจำเรือตามมาตรา 83 แห่ง พรก.การประมง ฯ และตามร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีฯ ,การประกาศ ห้ามมิให้ผู้ใดจับสัตว์น้ำหรือนำสัตว์น้ำที่มีขนาดเล็กกว่าที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดขึ้น เรือประมงตาม มาตรา 57แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 และที่แก้ไขเพิ่มเดิม

             นายณัฐพงศ์ วรรณพัฒน์ ประมงจังหวัดชลบุรี ได้กล่าวว่า โดยปัจจุบันมีเรือประมงที่พนักงานเจ้าหน้าที่มีคำสั่งกักเรือ จำนวน 9 ลำ ได้มีการพิจารณาทางอาญา และคำสั่งมาตรการปกครองแล้วเสร็จ โดยตามมติคณะอนุกรรมการตรวจสอบ และติดตามการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาการทำการประมงและแรงงานในภาคประมง ขณะนี้พนักงงานสอบสวนดำเนินการสอบสวนแล้วมีความชัดเจนว่าเจ้าของเรือไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็น ไม่ได้มีเจตนากระทำผิด และพนักงานสอบสวนไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาในฐานะผู้ต้องหากับเจ้าของเรือ ขณะนี้กรมประมงพิจารณามาตรการปกครองยกเลิกการกักเรือเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยฝ่ายกฎหมายของกรมประมงอยู่ในระหว่างขั้นตอนการเสนออธิบดีกรมประมงเพื่อพิจารณาให้พนักงานเจ้าหน้าที่ยกเลิกคำสั่งกักเรือตามแนวทางมติคณะอนุกรรมการฯ อ.๒ ต่อไป

        สำหรับปัญหาด้านแรงงานประมงที่รอขออนุญาตทำหนังสือคนประจำเรือ โดยกรมประมงได้จัดประชุมเตรียมความพร้อมเตรียมการดำเนินการตามร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง การออกหนังสือคนประจำเรือตามกฎหมายว่าด้วยการประมง ซึ่งมีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนสามารถดำเนินการได้ทันทีหลังที่ประกาศสำนักนายกฯ และที่เกี่ยวข้องมีผลใช้บังคับ ทั้งนี้กรมประมงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานในเรือประมง ตามมติคณะรัฐมนตรีที่สำคัญ ดังนี้ มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2565 คนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา ซึ่งเข้ามาทำงาน MOU ซึ่งวาระการจ้างงานครบปี ในปี พ.ศ. 2565 โดยให้สามารถอยู่ในราชอาณาจักรและทำงานต่อไปอีกไม่เกิน ๒ ปี นับแต่วันที่การอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเพื่อการทำงานเดิมสิ้นสุดลง และ มติคณะรัฐ มนตรี เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2565 ให้ขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนามที่มีสถานะไม่ถูกต้อง ยื่นขออนุญาตทำงานต่อกรมการจัดหางาน ให้สามารถอยู่และทำงานเป็นการชั่วคราวได้ไม่เกินวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 และหากประสงค์จะทำงานต่อไป ให้ยื่นขอต่อใบอนุญาตทำงานได้ไม่เกิน 13 กุมภาพันธ์ 2568 ทั้งนี้ ต้องดำเนินการตามประกาศกระทรวงมหาดไทยและประกาศกระทรวงแรงงานที่เกี่ยวข้อง  โดยกลุ่มที่รับการตรวจลงตราหรือตรวจอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรฯ ภายในวันที่ 1สิงหาคม 2565 ขยายระยะเวลาการตรวจลงตรา VISA จนถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566

           และการประกาศห้ามมิให้ผู้ใดจับสัตว์น้ำหรือนำสัตว์น้ำที่มีขนาดเล็กกว่าที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดขึ้นเรือประมงตาม มาตรา 57 แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 และที่แก้ไขเพิ่มเดิม ปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายลำดับรอง ที่ออกตามมาตรา 57แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม แต่อย่างใด โดยกรมประมงอยู่ในระหว่างศึกษาข้อมูล และรับฟังความเห็นกับผู้ทำการประมงในทุกประเภทที่มีส่วนได้เสีย ทั้งนี้ที่ผ่านมากรมประมงได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาการจับสัตว์น้ำวัยอ่อน ที่สำคัญ เช่นการประกาศปิดอ่าว ในช่วงฤดูกาลสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ และเลี้ยงตัววัยอ่อน การกำหนดห้ามมิให้อวนล้อมจับที่มีขนาดตาอวนเล็กกว่า 25 เชนติเมตร ทำการประมงในเวลากลางคืน การกำหนดขนาดตาอวนกันถุงของเรืออวนลาก ไม่น้อยกว่า 4 เชนติเมตรการกำหนดขนาดตาอวนครอบหมึก ไม่น้อยกว่า 3.2เซนติเมตร  การกำหนดขนาดตาอวนครอบปลากะตัก ไม่น้อยกว่า 0.6  เซนติเมตร  การกำหนดตาอวนของลอบปู ไม่น้อยกว่า 2.5  นิ้ว

          นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานอำนวยการความเป็นธรรมและเร่งรัดการปฎิบัติราชการ กล่าวว่า วันนี้ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมรับฟังปัญหากลุ่มประมงแสมสาร หลัง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับทราบปัญหาของกลุ่มประมงในพื้นที่ จึงได้มอบหมายให้ผมลงมาติดตามและสอบถามปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อนำไปรายงาน เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาต่างๆ ของพี่น้องประชาวประมง ในพื้นที่ต่อไป ส่วนปัญหาต่างๆ ได้แก้ไขปัญหาไปแล้วร่วมกับ กรมประมง และกระทรวงแรงงาน สำหรับปัญหาที่ชาวประมงพึงเสนอมาจะได้กลับตรวจสอบและเสนอและหาทางแก้ไข ต่อไป

ปริญญา/ข่าว/ภาพ

Visitors: 172,898