ผู้ว่าฯชลบุรี เฝ้าระวัง-ป้องกัน ควบคุมโรคฝีดาษวานรเข้มพื้นที่เศรษฐกิจ

  

  

  

ผู้ว่าฯชลบุรี เฝ้าระวัง-ป้องกัน ควบคุมโรคฝีดาษวานรเข้มพื้นที่เศรษฐกิจ

       นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานประชุมหารือแนวทางการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคฝีดาษวานรในพื้นที่เฉพาะ (พื้นที่เศรษฐกิจ) โดยมี นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา พร้อมด้วย นพ.อภิรัต กตัญญุตานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี นพ.วิชัย ธนาโสภณ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบางละมุงและสาธารณสุขอำเภอบางละมุง พร้อมด้วยภาคีเครือข่าย ภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมหารือ ณ ห้องประชุมทัพพระยา ศาลาว่าการเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี

 

ทั้งนี้ กรมควบคุมโรค ได้เผยสถานการณ์โรคฝีดาษวานรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในกลุ่มชายรักชาย และรับรายงานผู้ติดเชื้อเอชไอวีติดฝีดาษวานรเสียชีวิตรายแรกในไทย เป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวี (HIV) ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง รวมทั้งพบเชื้อเริมและซิฟิลิส มีผื่นแผลจากโรคฝีดาษวานรที่รุนแรง ทำให้เกิดเนื้อตายบริเวณกว้างที่จมูกและคอ มีอาการแทรกซ้อนที่ปอดและสมอง เร่งรัดทุกจังหวัดเฝ้าระวังติดตามสื่อสารกลุ่มเสี่ยง วิธีการป้องกันแพร่เชื้อโดยงดเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้าและไม่สัมผัสแนบเนื้อผู้มีอาการน่าสงสัยโรคฝีดาษวานร

          ในการนี้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี ได้เดินหน้าขับเคลื่อนการดำเนินงานป้องกันควบคุมโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เพิ่มมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคฝีดาษวานร ผ่านเครือข่ายโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สถานพยาบาลทุกแห่งในจังหวัดชลบุรี เพื่อให้สามารถตรวจจับผู้ป่วยโรคฝีดาษวานร ในชุมชนได้อย่างทันท่วงที และดำเนินการป้องกันควบคุมโรคไม่ให้มีการแพร่กระจายจนส่งผลกระทบต่อชุมชน

        และในวันนี้จึงได้ประชุมหารือแนวทางการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคฝีดาษวานรในพื้นที่เฉพาะ(พื้นที่เศรษฐกิจ) เพื่อร่วมกันพิจารณาหาแนวทางการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคฝีดาษวานร ในพื้นที่เฉพาะ (พื้นที่ท่องเที่ยว/เศรษฐกิจ) และวิธีการดูแลรักษาผู้ป่วย การรับส่งต่อผู้ป่วยโรคฝีดาษวานร เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด

        สำหรับโรคฝีดาษวานร สามารถป้องกันได้ โดยงดเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า ไม่สัมผัสแนบเนื้อกับผู้ที่มีผื่น ตุ่มหรือหนอง แนะนำให้ล้างมือบ่อยๆ และไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น จึงขอให้ทุกจังหวัดเฝ้าระวังติดตามกลุ่มเสี่ยงโดยหากประชาชนมีข้อสงสัยหรือต้องการคำแนะนำในการปฏิบัติตนสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

ปริญญา/ข่าว/ภาพ

Visitors: 177,199