ผู้ตรวจสำนักนายกรัฐมนตรี ติดตามการดำเนินงานของจังหวัดชลบุรี

 

  

  

  

ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดชลบุรี ลงพื้นที่สอดส่องโครงการตามแผนปฏิบัติราชการของจังหวัดชลบุรี

         เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2565 นางชื่นชีวัน ลิมป์ธีระกุล ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขตตรวจราชการที่ 8 ในฐานะประธานกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วยคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดชลบุรี ลงพื้นที่สอดส่องโครงการตามแผนปฏิบัติราชการของจังหวัดชลบุรีประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ณ ห้องประชุม ชั้น2 ที่ว่าการอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เพื่อติดตามความคืบหน้าพร้อมรับฟังข้อมูล ปัญหาอุปสรรค และหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาของการดำเนินโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ขั้นที่ 3 อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี  

         โดยในช่วงเช้า นางชื่นชีวัน ลิมป์ธีระกุล ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขตตรวจราชการที่ 8 ในฐานะประธานกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วยคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดชลบุรี และตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าประชุมหารือและรับฟังการรายงานผลการใช้จ่ายงบประมาณตามกรอบภารกิจของคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดชลบุรี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 การจัดทำรายงานผลการดำเนินงานของ ก.ธ.จ.ชลบุรีประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 เรื่องร้องเรียนกรณีที่เทศบาลเมืองสัตหีบก่อสร้างอาคารรุกล้ำลำคลองสาธารณะที่ชาวบ้านใช้เป็นที่จอดเรือประมง และก่อสร้างอาคารที่จอดรถของเทศบาล เมืองสัตหีบรุกล้ำฟุตบาท

           จากนั้นในช่วงบ่าย ได้ลงพื้นที่สอดส่องโครงการตามแผนปฏิบัติราชการของจังหวัดชลบุรี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 เพื่อติดตามความคืบหน้าพร้อมรับฟังข้อมูล ปัญหาอุปสรรค และหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาของการดำเนินโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ขั้นที่ 3 อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี แต่เนื่องด้วยสภาพอากาศ ช่วงฝนตก ทางผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขตตรวจราชการที่ 8 พร้อมด้วยคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดชลบุรี จึงได้เข้ารับฟังการนำเสนอในห้องประชุม ชั้น 2 สำนักงานท่าเรือแหลมฉบัง โดยมีนายศัลย์ อุคพัชญ์สกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการกองแผนงาน และคณะ ให้การต้อนรับ และรายงานความคืบหน้าในการดำเนินงานในครั้งนี้

           สำหรับ โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ขั้นที่ 3 อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี งบประมาณจำนวน 21,320,000,000.00 บาท โครงการดังกล่าวเป็นโครงการรองรับการขยายตัวของปริมาณการขนส่งทางทะเลที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นให้เพียงพอต่อความต้องการ การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) จึงได้วางแผนพัฒนาโครงการก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบัง ขั้นที่ 3 ให้มีโครงสร้างพื้นฐานท่าเรือและสิ่งอำนวยความสะดวกตลอดจนโครงข่ายและระบบการขนส่งต่อเนื่องที่จำเป็นต่าง ๆ ในเขตพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบังที่เชื่อมต่อกับภายนอกให้เพียงพอ และมีความพร้อมที่จะรองรับกับการขยายตัวของปริมาณการขนส่งทางเรือ การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟ และสินค้าประเภทต่าง ๆ ได้ทันท่วงที โดย กทท. ได้ทำสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมบัง ระยะที่ 3 งานก่อสร้างงานทะเล ตามสัญญาเลขที่ ทลฉ.จ.44/2563 ลงวันที่3 กันยายน 2563 กับกิจการร่วมค้า ซีเอ็นเอ็นซี (CNNC) งบประมาณจำนวน 21,320,000,000.00 บาท(งบประมาณตามสัญญา) เริ่มก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2564 ระยะเวลาดำเนินการ 1,460 วันสิ้นสุดสัญญาในวันที่ 3 พฤษภาคม 2568

          ทั้งนี้ กิจการร่วมค้า ซีเอ็นเอ็น (CNNC ได้ดำเนินการเตรียมพื้นที่เพื่อการก่อสร้างและดำเนินการสำรวจทางธรณีวิทยาเพื่อเตรียมการขุดลอกเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างขั้นตอนการขออนุมัติในการก่อสร้างสิ่งรุกล้ำลำนำ และการขออนุญาตนำเครื่องมือเครื่องจักรจากต่างประเทศเข้ามาใช้ คาดว่าจะดำเนินการขออนุญาตให้แล้วเสร็จภายใน เดือนพฤศจิกายน 2564 และจะดำเนินการก่อสร้างต่อไป โดยมีกำหนดการส่งมอบพื้นที่บางส่วน (Key Date) ให้กับ กทท. ตามเงื่อนไขสัญญา ดังนี้ 1.Key Date 1 ส่งมอบให้ กทท. ภายใน 365 วัน นับแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2564(ภายในวันที่ 4 พฤษภาคม 2565) 2.Key Date 2 ส่งมอบให้ กทท. ภายใน 550 วัน นับแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2564(ภายในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2565) และ3.Key Date 3 ส่งมอบให้ กทท. ภายใน 730 วัน นับแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2564(ภายในวันที่ 4 พฤษภาคม 2566)

         ส่วนสาเหตุที่ล่าช้าเพิ่มขึ้นจาก 51 วัน เป็น 87 วัน เนื่องจากการรวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้องเพื่อขออนุมัติแก้ไขสัญญาการเปลี่ยนเรือขุดและกระบวนการในการขุดดินและขนย้ายดินเหนียว ปัจจุบันดำเนินงานได้เป็นปกติ ตามแผนที่กำหนดไว้ได้ดี

ปริญญา/ข่าว/ภาพ

Visitors: 177,194