มหาดไทย จัดประชุมสถานการณ์ผลกระทบจากอิทธิพลพายุ “คาจิกิ” และ “หนองฟ้า”

  

  

มหาดไทย จัดประชุมสถานการณ์อุทกภัยและดินถล่มที่ได้รับผลกระทบจากอิทธิพลพายุ “คาจิกิ” และ “หนองฟ้า”

      วันพุธที่ 3 กันยายน 2568 ที่ห้องประชุมสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชลบุรี ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดชลบุรี นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ร่วมประชุมกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยและดินถล่มที่ได้รับผลกระทบจากอิทธิพลพายุ “คาจิกิ” และ “หนองฟ้า” โดยมีนางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมฯ ในการประชุมครั้งนี้ มีนายเดชา เรืองอ่อน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมเพื่อติดตามสถานการณ์และรับทราบข้อสั่งการ

       รมช.มหาดไทย ได้รับฟังรายงานภาพรวมสถานการณ์จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ที่ยังมีสถานการณ์ ได้แก่ จังหวัดเพชรบูรณ์ สุโขทัย เชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน ซึ่งหลายพื้นที่เริ่มคลี่คลายแล้ว โดยอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ขยายวงเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดที่ประสบภัย วงเงิน 50 ล้านบาท

        รมช.มหาดไทย เปิดเผยว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานติดตามและบริหารจัดการสถานการณ์อุทกภัยและดินถล่มอย่างใกล้ชิด พร้อมสื่อสารสร้างความเข้าใจแก่ประชาชน เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ในอนาคต และลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้น

      พร้อมกันนี้ ได้มอบข้อสั่งการสำคัญ 4 แนวทาง ได้แก่

   1. ดูแลประชาชนด้านการดำรงชีพ จัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว หน่วยแพทย์ดูแลสุขภาพกายและจิตใจ เร่งระบายน้ำ และช่วยเหลือผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บอย่างทันท่วงที

   2. เร่งสำรวจ ซ่อมแซม และฟื้นฟูระบบสาธารณูปโภค บ้านเรือน ถนน ไฟฟ้า ประปา และระบบสื่อสารในพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลาย

   3. เตรียมความพร้อมเฝ้าระวังในห้วงต่อไป โดยใช้กลไกกระทรวงมหาดไทยทุกระดับ แจ้งเตือนประชาชนให้ครอบคลุม และเตรียมชุดปฏิบัติการ เครื่องมือ และการสื่อสารสองทางให้พร้อม

   4. ให้ทุกจังหวัดถอดบทเรียนเหตุการณ์ที่ผ่านมา เพื่อนำไปปรับใช้เป็นแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาอย่างมีระบบและมีประสิทธิภาพ โดยคำนึงถึงกลุ่มเปราะบางและพื้นที่เสี่ยงซ้ำเป็นพิเศษ

ปริญญา/ข่าว/ภาพ

Visitors: 313,206