องคมนตรีเยี่ยมชมกิจกรรม คูโบต้าฟาร์ม ร่วมกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิโครงการหลวง

  

  

   

องคมนตรีเยี่ยมชมกิจกรรม คูโบต้าฟาร์ม ร่วมกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิโครงการหลวง

            วันจันทร์ที่ 25 กรกฎาคม 2565 พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิโครงการหลวง พร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่มูลนิธิโครงการหลวง ประกอบด้วย นักวิจัย นักส่งเสริมการเกษตร และหัวหน้าศูนย์พัฒนาโครงการหลวง รวม 17 คน เดินทางไปศึกษาดูงานด้านนวัตกรรมเกษตรครบวงจรที่คูโบต้าฟาร์ม อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี โดยมีที่ปรึกษาสํานักงานกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนตไทย จํากัด กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส และคณะผู้บริหารของบริษัทสยามคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น จำกัด ให้การต้อนรับ

          องคมนตรีและคณะเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิโครงการหลวงได้รับฟังการบรรยายสรุปภาพรวมของการบริหารจัดการเกษตร ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของคูโบต้า โดยที่คูโบต้าฟาร์มแห่งนี้ เป็นฟาร์มเพื่อสร้างประสบการณ์เกษตรสมัยใหม่ในระดับภูมิภาคอาเซียน ซึ่งใช้นวัตกรรมเกษตรครบวงจรเพื่อยกระดับให้เป็นเกษตรแม่นยำ มีประสิทธิภาพ และให้ผลลัพธ์คุ้มค่า โดยนำเทคโนโลยี IOT ที่ทันสมัยมาประยุกต์ใช้ ภายใต้แนวคิดการทำเกษตรครบวงจร จากต้นน้ำถึงปลายน้ำ

           คณะผู้บริหารคูโบต้าได้นำองคมนตรีและคณะของมูลนิธิโครงการหลวงเยี่ยมชมนิทรรศการ ชมวิดีทัศน์ 360 องศา ที่แสดงถึงความเป็นมาและแนวคิดในการเริ่มจัดตั้งคูโบต้าฟาร์มขึ้นในปี พ.ศ.2560 ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อเป็นแหล่งสาธิตนวัตกรรม เทคโนโลยีเครื่องจักรกลทางการเกษตรแก่เกษตรกรและผู้สนใจ เพื่อที่จะนำความรู้กลับไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยพื้นที่จัดแสดงแบ่งเป็นโซนต่าง ๆ รวม 9 โซนการเรียนรู้ ซึ่งคณะของมูลนิธิโครงการหลวงได้เข้าชมในโซนเกษตรแม่นยำข้าวและพืชหลังนา โซนเกษตรทฤษฎีใหม่  และโซนพืชสวน ซึ่งมีรูปแบบที่สอดคล้องกับการดำเนินงาน ที่มีเป้าหมายสำคัญคือ การดำเนินการตามแนวทางพระราชทาน สืบสาน รักษา ต่อยอดการวิจัย พัฒนาองค์ความรู้ และนวัตกรรมที่เหมาะสมต่อพื้นที่สูง ส่งเสริมแก่เกษตรกรบนพื้นที่สูง นำสู่การพัฒนาที่ครบวงจรทั้ง การเกษตร สังคม สิ่งแวดล้อม และการตลาด สามารถแก้ไขปัญหาการประกอบอาชีพของเกษตรกรบนพื้นที่สูง ทำให้การใช้พื้นที่เกษตรเป็นไปอย่างคุ้มค่า ลดการปลูกพืชเชิงเดี่ยว หันมาใช้ระบบเกษตรผสมผสาน ส่งเสริมการสร้างป่าเศรษฐกิจที่สร้างรายได้ และสร้างป่า ซึ่งจะส่งผลไม่ให้เกิดการรุกล้ำป่าต้นน้ำลำธารเพิ่มขึ้น นำเทคโนโลยีมาใช้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ การที่มูลนิธิโครงการหลวงดำเนินงานในพื้นที่ที่เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารสำคัญของประเทศ จึงต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของทั้งผู้ผลิต ผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม โดยการนำสารปลอดภัยมาใช้ทดแทนสารเคมี การลดขยะให้เป็นศูนย์ และมีเป้าหมายที่จะพัฒนาสู่การเป็นสถาบันการเรียนรู้การเกษตรที่สูงอย่างยั่งยืน โดยพื้นที่ของสถานีเกษตรหลวง และศูนย์พัฒนาโครงการหลวงกำลังพัฒนาให้เป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ เป็นตัวอย่างการทำการเกษตรที่สูงที่นำเทคโนโลยีมาใช้อย่างสมดุล พร้อมทั้งเสริมสร้างให้บุคลากรทั้งนักวิชาการและเกษตรกรเกิดการเรียนรู้ และพัฒนาศักยภาพให้เท่าทันเทคโนโลยี  ในการศึกษาดูงานครั้งนี้ คณะเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิโครงการหลวงได้แลกเปลี่ยนความรู้ และประสบการณ์ในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาด้านเทคโนโลยีการเกษตรกับคณะของสยามคูโบต้า ก่อนเดินกลับ องคมนตรีได้ปลูกต้นรวงผึ้ง และถ่ายภาพเพื่อเป็นที่ระลึกร่วมกับผู้บริหารของสยามคูโบต้า

ปริญญา/ข่าว/ภาพ

Visitors: 172,820