เทศบาลนครแหลมฉบัง ขับเคลื่อนเป็นองค์กรรูปแบบพิเศษสอดรับ EEC

  

  

เทศบาลนครแหลมฉบัง ขับเคลื่อนเป็นองค์กรรูปแบบพิเศษสอดรับ EEC 

            เทศบาลนครแหลมฉบัง จัดการประชุมคณะทำงานขับเคลื่อนการถ่ายโอนภารกิจการจัดทำบริการสาธารณะของเทศบาลนครแหลมฉบังในรูปแบบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีลักษณะพิเศษเฉพาะ (อสมมาตร) ครั้งที่ 1/2565 ผ่านระบบสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Zoom Meeting) ณ ห้องประชุมเมืองใหม่ 2 เทศบาลนครแหลมฉบัง โดยได้รับเกียรติจาก รศ.ดร.ธัชเฉลิม สุทธิพงษ์ประชา ประธานคณะทำงานขับเคลื่อนฯ เป็นประธานในการประชุม พร้อมด้วย นายบุญเลิศ น้อมศิลป์ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลแหลมฉบัง ในฐานะที่ปรึกษาคณะทำงานขับเคลื่อนฯ นางจินดา ถนอมรอด นายกเทศมนตรีนครแหลมฉบัง และผู้บริหารเทศบาล ร่วมประชุม

           เนื่องด้วยมีคำสั่งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการถ่ายโอนบริการสารารณะ กิจกรรมสาธารณะ ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีลักษณะพิเศษเฉพาะ (อสมมาตร) ที่ 3/2565 เรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนการถ่ายโอนภารกิจการจัดทำบริการสาธารณะของเทศบาลนครแหลมฉบัง ในรูปแบบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีลักษณะพิเศษเฉพาะ (อสมมาตร) เพื่อทำงานขับเคลื่อนการถ่ายโอนภารกิจการจัดทำบริการสาธารณะของเทสบาลนครแหลมฉบัง

         โดยคณะทำงานขับเคลื่อนมีหน้าที่และอำนาจ ศึกษา วิเคราะห์แนวทาง กำหนดหน้าที่ และอำนาจในการจัดทำบริการสาธารณะของเทศบาลนครแหลมฉบัง เพิ่มเติมนอกเหนือจากที่ กฎหมายกำหนดไว้ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(EEC) ร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการนครแหลมฉบัง ซึ่งจัดทำโดยเทศบาลนครแหลมฉบัง ทั้งนี้ยังต้องจัดทำรายงานผลการพิจารณาศึกษาและข้อเสนอแนะ สรุปความคิดเห็นของประชาชนใขเขตเทศบาลนครแหลมฉบัง ต่อคณะอนุกรรมการฯ เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพิจารณาต่อไป

           รศ.ดร.ธัชเฉลิม สุทธิพงษ์ประชา ประธานคณะทำงานขับเคลื่อนฯ เปิดเผยว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมคณะทำงานของคณะกรรมการกระจายอำนาจ เพื่อวางกรอบการทำงาน ขับเคลื่อนให้เทศบาลนครแหลมฉบังเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ ซึ่งจากความเห็นของกรรมาธิการที่สภาผู้แทนราษฎรลงความเห็นว่า เทศบาลนครแหลมฉบังเหมาะสมที่สุดที่จะเป็นเมืองพิเศษ เนื่องจากอยู่ในเขตพื้นที่ EEC ซึ่งขั้นแรกเทศบาลต้องยกร่างกฎหมายฉบับใหม่ เพื่อให้แหลมฉบังมีการปกครองแบบเมืองพัทยา มีกฎหมายเป็นของตัวเอง  ทั้งนี้ทางเลขา EEC ชี้แจงว่า พรบ. EEC พร้อมเปิดโอกาสให้กับนครแหลมฉบัง ยกระดับขึ้นเป็นเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ ขั้นตอนต่อไปทางคณะกรรมการต้องร่วมหารือกับเทศบาลนครแหลมฉบังว่าจะทำอะไรให้พิเศษ หรือมีโครงการพิเศษ กิจกรรมที่ไปสอดรับกับยุทธศาสตร์ของ EEC สอดรับกับยุทธศาสตร์ชาติ และอยู่ในขอบเขตที่เทศบาลนครแหลมฉบังจะทำได้ เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการต่อไป

           สำหรับการเป็นเมืองพิเศษ แบบพัทยา คงไม่ใช่เร็วๆนี้ เพราะการเสนอกฎหมายเข้าไปในสภาต้องใช้เวลาพอสมควร อีกทั้งรัฐบาลชุดนี้ใกล้หมดวาระแล้ว ทางคณะทำงานจึงเห็นว่ายังไม่เสนอเข้าไป แต่หากว่าเป็นเมืองพิเศษเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ ที่แตกต่างจากการปกครองในพื้นที่อื่นๆของประเทศไทย หากทำได้ จะเป็นที่แห่งของประเทศไทย ที่เป็นเมืองเก่าแล้วที่นำมารีโนเวทใหม่ อาจจะเกิดขึ้นได้ ในเร็วๆ นี้น่าจะภายในปีนี้ ถ้าทำคณะทำงานได้ทำงานตามแผนที่วางไว้และไม่มีปัญหาอื่นๆ คงได้รับข่าวดีอย่างแน่นอน  รศ.ดร.ธัชเฉลิม สุทธิพงษ์ประชา  กล่าวทิ้งท้าย

ปริญญา/ข่าว/ภาพ

Visitors: 172,701